”จันทบุรี“ จัดเทศกาล “พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024” ระหว่าง 5-9 ธ.ค.นี้ธีมงาน “จันทบุรีนครอัญมณี“ สร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชน พร้อมออกร้านทั้งในและต่างประเทศกว่า 300 ร้านค้า

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ นายภูเก็ต คุณประภากร ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี นางสาวกนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดไมซ์ในประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ร่วมแถลงข่าวจัดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024 “จันทบุรี นครอัญมณี” Chanthaburi City of Gems ระหว่างวันที่ 5-9 ธันวาคม 2567 ซึ่งสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จับมือจังหวัดจันทบุรี สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรีผนึกความร่วมมือพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน 8 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เทศบาลเมืองจันทบุรี หอการค้าจังหวัดจันทบุรี สภาอุตสาหกรรมจังหวัดจันทบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจันทบุรี เคพี จิวเวลรี่ เซ็นเตอร์ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ผนึกกำลังจัดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024 “จันทบุรี นครอัญมณี” Chanthaburi City of Gems ระหว่างวันที่ 5-9 ธันวาคม 2567 ใน 3 จุดแหล่งผลิต – จำหน่ายอัญมณีโลก ได้แก่: ศูนย์ส่งเสริม อัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี อาคารเคพีจิวเวลรี่ เซ็นเตอร์ และตลาดพลอยถนนศรีจันทร์ ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย อัญมณีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

ทั้งนี้ จากข้อมูลสินค้าประเภทอัญมณีและเครื่องประดับไทยล่าสุดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในตลาดส่งออกสำคัญของไทย ทำให้เห็นโอกาสของการเติบโตในธุรกิจด้านนี้เป็นอย่างมาก

ดังนั้นงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024 จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 มีเป้าหมายจะผลักดันให้จันทบุรีเป็นนครอัญมณีของโลก พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนด้านอัญมณีและเครื่องประดับ ในจังหวัดจันทบุรีให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันต่อการขยายตลาดการค้าสู่สากลอีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการค้า ส่งเสริมการท่องเที่ยว และให้ผู้ประกอบการด้านอัญมณีและเครื่องประดับจากทั่วประเทศ ได้มีพื้นที่ในการเจรจาธุรกิจ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคู่ค้าที่มีศักยภาพและตรงตามความต้องการ

นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมธุรกิจในกลุ่มอาเซียน กลุ่มเอเชียตะวันออก ได้มาพบปะกันภายในงานนี้ ซึ่งจะมีร้านค้าทั้งในและต่างประเทศกว่า 300 ร้านค้า

ข่าวที่แนะนำ